Story Sharing by อดีตนักเรียนทุนม.ปักกิ่ง Part 1: เตรียมตัวสอบHSK
- endeavourstudyth
- Nov 10, 2024
- 1 min read
โพสนี้จะเป็นการแชร์ประสบการณ์จากพี่โมเม อดีตนักเรียนทุนทั้งป.ตรีและป.โท จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง (มหาลัย top 3 ของจีน)
โดยจะรวบรวมคำถามที่ถูกถามเข้ามาบ่อยๆจากน้องๆ ในเรื่องการของเตรียมตัวเรียนภาษาจีน และการขอทุนเพื่อเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยที่จีน
Q: เรียนที่จีนทั้งหมดกี่ปี
A: ระยะเวลารวมจะอยู่ที่ประมาณ 7 ปี เพราะเรียนป.ตรี 4 ปี และกลับมาอยู่ไทยช่วงโควิดปีนึง แล้วก็กลับไปเรียนต่อโทอีก 3 ปีค่ะ ตอนนี้เพิ่งเรียนจบและกลับมาทำงานที่ไทย
Q: ป.โทหลักสูตรเป็น 3 ปีหมดเลยหรือเปล่า
A: ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและคณะ ที่เรียนเป็น Academic Master’s Degree เป็นเชิงวิชาการหน่อย เรียน 3 ปีค่ะ โดย 1-2 ปีแรกจะเป็นการเรียนหน่วยกิต และปีสุดท้ายคือการทำวิทยานิพนธ์อย่างเดียว ถ้าหลักสูตร Professional Master’s Degree จะเรียนแค่ 2 ปีเหมือนที่อื่นทั่วไป อาจจะไม่ต้องเขียนวิทยานิพนธ์
Q: ใช้เวลานานมั้ย กว่าจะเก่งจีนจนได้ทุน
A: สองปีครึ่งถึงสามปีค่ะ จาก HSK 2 ในช่วง ม.4 จนมาเป็น HSK 6 ตอนม.6 (ระดับสูงสุดตอนนั้น) แต่ก็แลกกับการอ่านหนังสือ ทำข้อสอบทุกวัน ช่วงปิดเทอมก็พยายามไปค่ายภาษาจีนที่ประเทศจีนตลอด แล้วก็เริ่มวางแผนจริงจังเรื่องการขอทุนไปจีนประมาณม. 5
Q: ต้องมีคะแนน HSK ระดับไหน ถึงจะมีโอกาสได้ทุน
A: โดยทั่วๆไป ก็จะประมาณระดับ HSK 4 ขึ้นไป ก็จะทำให้มีโอกาสมากขึ้น ถ้าระดับ HSK 3 ก็ยังพอมีบางมหาลัยที่เข้าเกณฑ์ แต่ตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าระดับ 4 ค่ะ อาจจะต้องขอทุนไปเรียนปรับพื้นฐานก่อน 1 หนึ่งปี
Q: การไปค่ายที่จีน ช่วยเรื่องการพัฒนาภาษามากน้อยแค่ไหน
A: คิดว่าช่วยเยอะมาก ในหลาย ๆ ด้านค่ะ
หนึ่งคือ เราได้ฝึกภาษาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่ได้แค่ท่องไปสอบ หรือใช้แค่ในห้องเรียน แล้วพอเราเริ่มใช้ภาษาสื่อสารกับคนจีนได้จริงๆ มันจะเริ่มสนุกและอยากเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ
สองคือ เราได้เห็นการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยที่จีนจริงๆ ด้วย เพราะถึงแม้จะไปค่าย แต่ก็เป็นการเรียนกับทางมหาวิทยาลัยในจีนเลย ซึ่งทำให้เราได้มีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์มหาลัยนั้นๆ ได้ใช้ชีวิตเหมือนนักศึกษามหาลัยเลย แล้วยังได้มีโอกาสเจอนักเรียนจากชาติอื่นๆด้วย
สามคือ หลังจบค่ายจะมีการสอบ และมอบใบประกาศนียบัตร ซึ่งสามารถเอามาใช้ประกอบการทำพอร์ตตอนยื่นมหาวิทยาลัยได้
Q: เริ่มวางแผนขอทุนตั้งแต่ตอนไหน
A: ช่วงปิดเทอมม. 5 ได้ไปค่ายภาษาจีนอีก ประมาณ 5 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็กลับมาสอบ HSK ได้ ระดับ 5 เลย (ก่อนไปค่ายได้ระดับ 4) ก็เลยรู้สึกว่ามีพัฒนาการในด้านภาษาจีนมากขึ้น ก็เริ่มสนใจที่จะไปเรียนต่อที่จีนแบบจริงจัง เลยเริ่มหาข้อมูลทุนมหาวิทยาลัยต่างๆ ในจีน และเตรียมความพร้อมด้านเอกสารต่างๆ ให้ได้ตามเกณฑ์ที่มหาลัยกำหนด
ตอนนั้นเริ่มสนใจอยากขอทุนที่ม.ปักกิ่ง ซึ่งเป็นมหาลัยระดับต้นๆของเอเชียเลยก็ว่าได้ การแข่งขันจึงสูงมากๆ เกณฑ์สมัครคือ HSK 5 ขึ้นไป ซึ่งเราก็ถึงแล้ว แต่อยากเพิ่มโอกาสการแข่งขันของตัวเองให้มากขึ้น เลยตั้งใจจะสอบให้ได้ HSK ระดับ 6 ก่อนที่จะยื่นเริ่มทุน
ส่วนเอกสารอื่น ๆ ก็ทยอยเตรียมในช่วงม.6 เลย เช่น Recommendation, Portfolio
Commentaires